วันที่ 09 มิถุนายน 2565 เวลา 12:32 น. ( อ่านแล้ว 489 ครั้ง ) | ||
บวชพระ คือ อะไร
การบวช เป็นการยกตนขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย เป็นหนทางสู่พระนิพพาน เป็นสิ่งที่กระทำได้ยาก กว่าจะมีการบวชต้องถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบหลายประการ ผู้บวชจะต้องเป็นสัมมาทิฐิ ต้องเป็นมนุษย์ที่ไม่พิการและเป็นชายเท่านั้น
การบวชนั้นมีอานิสงส์มาก บุคคลใดได้บวชในบวรพระพุทธศาสนาด้วยศรัทธาเลื่อมใสจะได้อานิสงส์ 64 กัป บิดามารดาได้อานิสงส์ 32 กัป บุคคลใดได้บวชบุตรของตนก็ดี บุตรของผู้อื่นก็ดี ก็จะไม่ไปสู่อบายภูมิ
บวชแล้วทำไมเรียกทิด
โบราณเรียกคนที่บวชแล้วว่า ทิด ซึ่งมาจากคำว่า บัณฑิต แปลว่า ผู้ศึกษาแล้ว
บวชแล้วเป็นคนสุก หมายถึง กิเลสในตัวสุก ยังไม่ถึงกับหมดไป แต่อาศัยการบำเพ็ญตบะในเพศสมณะ ย่างกิเลสทั้งโลภ โกรธ หลง จนสุก ฤทธิ์อ่อนลงไปมากแล้ว ในสมัยโบราณมีธรรมเนียมที่ว่าถ้าใครยังไม่บวชแล้วไปขอลูกสาวบ้านไหน เขาจะไม่ยกให้ เพราะเขายังไม่ไว้ใจว่าจะพาลูกสาวของเขาไปดีได้หรือไม่ จะต้องเคยบวชเรียนมาก่อนจนเป็นทิดเขาถึงจะไว้วางใจ และยกลูกสาวให้ ฉะนั้นการบวชเรียนอย่างนี้ถูกต้องที่สุด และเป็นประโยชน์ที่สุด เป็นธรรมเนียมไทยแต่โบราณมา เราควรช่วยกันรักษาประเพณีการบวชช่วงเข้าพรรษาเพื่อตัวของเราเป็นสุข เพื่อสังคมประเทศชาติ และเพื่อการจรรโลงพระพุทธศาสนาด้วย
บวชเป็นพระ พ่อแม่ได้บุญอย่างไร
ร่างกายของเรา ทั้งเลือด ทั้งเนื้อ ทั้งหมดได้มาจากพ่อและแม่ และท่านก็เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ เมื่อเราไปบวช เกิดบุญเกิดกุศล ในฐานะที่เป็นผู้ให้กำเนิดเรามา เลี้ยงดูอบรมเรามา แล้วโดยเฉพาะการบวชพระเป็นสิ่งที่ได้บุญมหาศาล ยิ่งกว่าการให้บุญด้วยข้าวของทั้งหลาย เพราะว่าเป็นการลงมือปฏิบัติจริง อยู่ในเพศสมณะ ซึ่งเป็นเพศอันประเสริฐ ถ้ามีโอกาสบวชแล้วจงบวชเถิดเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ แล้วบุญก็จะส่งถึงพ่อแม่อย่างมากมาย ลูกได้เท่าไหร่ พ่อกับแม่ได้ครึ่งหนึ่ง ขอให้ตั้งใจบวช เอาบุญให้ท่านเต็มที่ โบราณบอกว่า พ่อแม่จะได้เกาะชาติผ้าเหลืองลูกขึ้นไปสวรรค์ด้วย เพราะท่านได้บุญไปด้วยอย่างมหาศาล
บวชแล้วได้อะไรบ้าง?
1. บวชแล้วได้บุญ การบวชเป็นพระแท้เป็นทางมาแห่งบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ถึงแม้จะมีผู้วิเศษเก็บดอกไม้จนหมดป่าหิมพานต์ แล้วนำมาบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึง 1,000 พระองค์ กระทำดังนี้ทุกวัน ผลบุญจากการบูชานั้นก็ไม่เท่าผลบุญจากการบวชเป็นพุทธบูชาในพระพุทธศาสนา” * บุญบวชเป็นพระแท้จึงเป็นสุดยอดแห่งบุญที่มีอานุภาพมหาศาล สามารถตัดรอนวิบากกรรมและดึงดูดความสุขความเจริญเข้ามาได้เป็นอัศจรรย์ บุญนี้จะช่วยปิดอบาย เปิดสวรรค์ ช่วยให้ผู้บวชมีความเห็นถูกต้อง และได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนาเป็นเวลานานถึง64กัป
2. บวชแล้วจะได้ฝึกสมาธิอย่างถูกวิธี การฝึกสมาธิเป็นการพัฒนาจิตให้สงบ ก่อให้เกิดพลังแห่งความบริสุทธิ์ ซึ่งจะมีอานุภาพดึงดูดสิ่งที่ดีงามเข้ามาในชีวิต ทั้งคนดี ๆ ของดี ๆ และโอกาสดี ๆ
3. บวชแล้วได้ความสุข ความอิ่มเอิบเบิกบานผ่องใส เหมือนได้ผลัดชีวิตใหม่ ความสุขชนิดนี้เป็นความสุขจากความปลอดกังวลที่เกิดจากจติ ที่ผ่องใส เพราะได้นั่งสมาธิป ฏิบัติธรรมทุกวัน และเป็นความสุขที่เงินซื้อไม่ได้ แต่ได้ฟรี ๆ จากการบวช
4. บวชแล้วได้ศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อนำไปเป็นหลักในการดำเนินชีวิต และได้รู้ว่า "เราเกิดมาทำไม?" "อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต?" ทำให้การมาเกิดของเราในชาตินี้ไม่สูญเปล่า
5. บวชแล้วได้โอกาสทองในการแก้ไขนิสัยและได้สร้างภูมิคุ้มกันจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย รวมทั้งได้หักดิบเลิกอบายมุขต่าง ๆ
6. บวชแล้วได้เพื่อนกัลยาณมิตรใหม่ ๆ ที่จะคอยให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันต่อไปในอนาคต
7. บวชแล้วที่ได้เป็นหนึ่งในบุคคลประวัติศาสตร์แห่งการฟื้นฟูศีลธรรมครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งจะมีผลต่อความสงบร่มเย็นของประเทศชาติและโลกของเรา
*การบวชในพระพุทธศาสนา พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
บวชเข้าพรรษาดีอย่างไร?
บวชเข้าพรรษา กับบวชในช่วงเวลาธรรมดา ได้บุญจากการบวชเหมือนกัน แต่ว่าการอบรมอาจจะแตกต่างกัน ถ้าเราบวชเข้าพรรษา จะเป็นช่วงเวลาที่บวชพร้อมๆกัน เป็นหมู่เป็นคณะ ทำให้เราได้รับการอบรมอย่างเป็นระบบ เหมือนนักเรียนมีชั้นเรียน แต่ถ้าเราเองไปบวชนอกพรรษา ถ้าเป็นกรณีที่เราบวชที่เราว่างเราสะดวก บวชองค์เดียว ถามว่าจะมีใครมาอบรมให้เราได้ทั้งวัน นั่งสอนธรรมะทำนั่งสมาธิ เช้า สาย บ่าย ค่ำ สอนหนึ่งต่อหนึ่ง คงมีไม่กี่คนที่ทำได้อย่างนั้น ส่วนใหญ่ก็จะบวชแล้ว เช้าก็ไปสวดมนต์ ออกบิณฑบาต กลางวันก็แล้วแต่ ตามใจชอบ ใครจะอ่านหนังสือธรรมะก็เอา หรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ตามสะดวก ค่ำๆ ก็มาสวดมนต์อีกครั้ง แค่นั้นเอง การศึกษาธรรมะ เรียนรู้หลักธรรมก็จะน้อยไป เพราะฉะนั้น บวชพร้อมกันเป็นหมู่เป็นคณะดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก www.dmc.tv
| ||